วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568

💉 “ยา Teriparatide คืออะไร? ทำไมถึงช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้น?”

💉 “ยา Teriparatide คืออะไร? ทำไมถึงช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้น?”

ยาฉีดสร้างกระดูกใหม่ เหมาะกับผู้ที่มีกระดูกพรุนขั้นรุนแรงหรือเคยหักซ้ำ

🧠 ยานี้ทำงานอย่างไร?

• Teriparatide เป็นยาที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนจากต่อมพาราไทรอยด์ (PTH)

• มีหน้าที่กระตุ้นเซลล์สร้างกระดูก → ช่วยให้ร่างกายสร้าง “กระดูกใหม่” เพิ่มขึ้น

💉 วิธีใช้ยา

• เป็น ยาฉีดใต้ผิวหนัง วันละ 1 ครั้ง (เหมือนฉีดอินซูลิน)

• ผู้ป่วยสามารถฉีดเองที่บ้านได้

• ต้องแช่เย็น ตลอดเวลา และเปลี่ยนเข็มใหม่ทุกครั้ง

• ควรฉีดเวลาเดิมทุกวัน เพื่อให้ยาทำงานสม่ำเสมอ

⏳ ระยะเวลาในการใช้ยา

ประเภทการใช้ ระยะเวลา หมายเหตุ

มาตรฐานเดิม 2 ปี ใช้ต่อเนื่องทุกวัน

อัปเดตล่าสุด สูงสุด 4 ปี ในกรณีที่ยังมีความเสี่ยงกระดูกหักสูง หรือกลับมาเสี่ยงใหม่อีกครั้งควรอยู่ในการดูแลแพทย์อย่างใกล้ชิด

✅ หลังหยุดยา บางรายอาจได้รับยากลุ่มลดการสลายกระดูกต่อ (เช่น Bisphosphonates) เพื่อรักษาผลของการสร้างกระดูก

👍 ประโยชน์ของยา

• เพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้รวดเร็ว

• ลดความเสี่ยงกระดูกหัก โดยเฉพาะที่ กระดูกสันหลัง และ สะโพก

• เหมาะกับผู้ป่วยที่:

• มีกระดูกพรุนรุนแรง

• เคยกระดูกหักแม้กินยารักษาแล้ว

• มีผลตรวจมวลกระดูก (BMD) ต่ำมาก

⚠️ ข้อควรระวัง

• ราคาค่อนข้างสูง (แต่บางสิทธิ์สามารถเบิกได้)

• ต้องฉีดทุกวัน และเก็บยาในตู้เย็น

• ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มี:

แคลเซียมในเลือดสูง

เคยเป็น มะเร็งกระดูก

เด็กหรือวัยเจริญเติบโต

🩺 สรุปสั้น ๆ สำหรับคนไข้

“Teriparatide เป็นยาที่ช่วยให้ร่างกายสร้างกระดูกใหม่ขึ้นมา ใช้ต่อเนื่องทุกวันได้ถึง 2 ปี และในบางรายสามารถใช้ได้นานถึง 4 ปีถ้าจำเป็น โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด”

📌 หากคุณหรือคนที่คุณรักเคยกระดูกหักซ้ำ หรือผลตรวจมวลกระดูกต่ำมาก → ยานี้อาจช่วยลดความเสี่ยงหักซ้ำในอนาคตได้ครับ

📲 ปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางเพื่อวางแผนการรักษาที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุดนะครับ

“ยารักษากระดูกพรุน มีกี่แบบ? ต่างกันยังไง?”

🦴 “ยารักษากระดูกพรุน มีกี่แบบ? ต่างกันยังไง?”


เข้าใจง่ายใน 5 นาที โดยหมอกระดูกและข้อ

คนไข้หลายคนถามว่า

“หมอครับ ยากระดูกพรุนที่ผมกินนี่ เป็นแบบสร้างกระดูก หรือแบบยับยั้งการสลายกระดูกครับ?”

คำถามนี้ดีมากครับ เพราะยารักษาโรคกระดูกพรุนมี 2 กลุ่มหลัก ซึ่งทำงาน ตรงกันข้ามกันเลย!

✅ ยารักษากระดูกพรุน มีกี่กลุ่ม?

มียา 2 กลุ่มใหญ่ที่ใช้รักษาโรคกระดูกพรุน:

① กลุ่มกระตุ้นการสร้างกระดูก (Bone Formation Agents)

📌 ทำงาน: ช่วย “เร่งการสร้าง” กระดูกใหม่ให้เร็วขึ้น

📌 ใช้เมื่อไร: ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงกระดูกหักสูง เช่น กระดูกสันหลังยุบ หรือเคยหักซ้ำ

📌 ตัวอย่างยา:

• Teriparatide (PTH) – ยาฉีดกระตุ้นเซลล์สร้างกระดูก

• Romosozumab – ยาฉีดที่กระตุ้นสร้าง และลดสลายกระดูกด้วย (dual effect)

📌 ข้อดี: เพิ่มความหนาแน่นกระดูกเร็ว

📌 ข้อควรระวัง: ราคาสูง, ต้องฉีด, จำกัดระยะเวลาใช้

② กลุ่มลดการสลายกระดูก (Antiresorptive Agents)

📌 ทำงาน: “ชะลอการสลาย” กระดูกที่มีอยู่

📌 ใช้เมื่อไร: เป็นยาหลักที่ใช้กันทั่วไปในผู้หญิงวัยทอง และผู้สูงอายุ

📌 ตัวอย่างยา:

• Bisphosphonates (Alendronate, Risedronate) – กินหรือฉีด

• Denosumab – ยาฉีดทุก 6 เดือน

• SERMs เช่น Raloxifene – ใช้ในบางกลุ่มผู้หญิง

• ฮอร์โมนเอสโตรเจน (ในรายที่เหมาะสม)

📌 ข้อดี: ป้องกันกระดูกหักได้ดี, มีข้อมูลวิจัยยาวนาน

📌 ข้อควรระวัง: บางตัวอาจมีผลข้างเคียงต่อกระเพาะหรือไต ต้องกิน/ฉีดตามคำแนะนำแพทย์

💬 สรุปท้าย

ยารักษาโรคกระดูกพรุนแต่ละชนิดมีข้อดีต่างกัน ไม่มี “ยาดีที่สุด” สำหรับทุกคน

สิ่งสำคัญที่สุดคือ:

✅ ตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์

✅ เจาะเลือด-วัดความหนาแน่นกระดูก

✅ ประเมินความเสี่ยงกระดูกหัก

เพื่อเลือก “ยาที่เหมาะกับคุณ” ที่สุดในเวลานั้น